การแข่งขันกีฬาภายใน ประจำปีการศึกษา 2558  ภายใต้แนวคิด “WE ARE THAILAND ปลุกความเป็นไทยในตัวคุณ” วันสุดท้าย ที่สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬาสุรี บูรณธนิต วิทยาเขตรังสิต ได้รับความสนใจจากนักศึกษาเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

 

สโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาคปกติ จัดการแข่งขันกีฬาภายในประจำการศึกษา 2558 ภายใต้แนวคิด “WE AER THAILAND ปลุกความเป็นไทยในตัวคุณ” ระหว่างวันที่11 -19 กันยายน2558  และได้มีพิธีเปิดการแข่งขัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา โดย ผศ.ดร.อัมภารัชฏ์ วิเศษสมิต รองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา เป็นประธานในพิธี ที่สนามกีฬากลาง ศูนย์กีฬาสุรี บูรณธนิต วิทยาเขตรังสิต

 

เมื่อวันที่19  กันยายน 2558 เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันกีฬาภายใน บียู สปอตเดย์ ซึ่งมีการแข่งขันกองเชียร์ เชียร์ลีคเดอร์ และขบวนพาเหรด ของนักศึกษาทุกคณะ โดยแบ่งการแข่งขันตามสายได้แก่ สาย ก. ประกอบด้วย คณะนิเทศศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ และคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว สาย ข. ประกอบด้วย คณะศิลปกรรมศาสตร์  คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSAM) วิทยาลัยนานาชาติ (BUIC) และคณะบัญชี และ สาย ค. ประกอบด้วย คณะเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์

 

บรรยากาศในช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยการแข่งขันกองเชียร์และเชียร์ลีดเดอร์ในสาย ค. โดยคณะเศรษฐศาสตร์เริ่มเป็นคณะแรก มาในธีม “วัฒนธรรมไทย” โดยการแสดงของเชียร์ลีคเดอร์สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างสวยงาม ด้าน นางสาวรัศมี ถิรมงคลชัย สต๊าฟ          คณะเศรษฐศาสตร์ กล่าวถึงการแสดงครั้งนี้ว่า เป็นธีมวัฒนธรรมไทยที่นำตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง โดยเน้นไปที่ ทศกัณฐ์และนางสีดา สำหรับกองเชียร์ใช้เวลาในการฝึกซ้อมนานกว่าสองเดือน แต่จะมาฝึกหนักช่วงสองอาทิตย์ก่อนการแข่งขัน

 

ขณะที่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาในธีม "อนุรักษ์ความเป็นไทย" โดยฉากหลังของสแตนเชียร์มีการวาดรูปเป็นหน้าหลักของเว็บไซต์กูเกิล (google) และมีรูปทศกัณฐ์เป็นส่วนประกอบของฉาก รวมไปถึงการแสดงของคณะมีการผสมผสานความเป็นไทยลงไปได้อย่างลงตัว   

 

ตามมาด้วย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มาธีมมวยไทยด้วยชุดย้อนยุคสีแดง โดยนางสาวเบ็ญจพร ซื่อสัตย์ ประธานเชียร์คณะวิศวกรรมศาสตร์ อธิบายถึงแนวคิดของการแสดงว่า ทางคณะของเราตั้งใจที่จะนำเสนอให้ทุกคนได้เห็นว่ามวยไทยเป็นศิลปะที่อยู่คู่ชาติไทยมานานแล้ว เลยเลือกชุดของเชียร์ลีคเดอร์ให้เป็นแบบสมัยก่อน จะได้เหมือนอยู่ในยุคนายขนมต้ม

 

ปิดท้ายการแข่งขันสาย ค. ด้วยแชมป์เก่าอย่างคณะนิติศาสตร์ ที่ในปีนี้มาในธีม มวยไทย เช่นกัน เปิดตัวด้วยรูปจา พนม ขนาดใหญ่ และชุดไทยประยุกต์เน้นโทนสีทอง ดำ พร้อมโชว์ไฮไลท์ในตอบจบด้วยการต่อตัวเป็นรูปช้าง เป็นการปิดฉากการแสดงได้อย่างสมศักดิ์ศรีแชมป์เก่าประจำสาย ค.

 

ขณะที่การแข่งขันในสาย ข. เริ่มต้นที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  โดยใช้การแสดงในชุด "เลิกทาส" พร้อมลูกเล่นในการแสดงมากมาย ทั้งการพ่นไฟ ปล่อยควันสี และทิ้งท้ายด้วยการอ่านประกาศเลิกทาสในรัชกาลที่ 5

 

ด้านคณะวิทยาลัยนานาชาติ ถึงแม้จะไม่มีเชียร์ลีคเดอร์เข้าร่วมเชียร์ แต่ด้วยสปิริตจึงมีตัวแทนออกมาเต้นโชว์การแสดง ทำให้ได้รับเสียงเชียร์และกำลังใจจากเพื่อน ๆ จากคณะอื่น และกองเชียร์มาธีม "เมดอินไทยแลนด์"  

 

ส่วนคณะการเป็นเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ มาในคอนเซปต์ “สยามไอยรา” โดยนายวรากร เพ็ชรดิษฐ์ หัวหน้าเชียร์ลีคเดอร์ คณะการเป็นเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ ได้อธิบายว่า  "คอนเซปต์คณะของเราคือ "สยามไอยรา" เพราะว่าช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง เป็นสัตว์ชั้นสูง ที่สู้รบเพื่อประเทศไทย สื่อให้เห็นว่ากว่าเราจะเป็นไทยในทุกวันนี้ เพราะสัตว์ตัวนี้ที่ช่วยประเทศบ้านเมืองของเราไว้"  ถ้ดมาที่คณะบัญชี มาในชุดการแสดง"ลิเกบัญชร"  ตอนพระรถ-เมรี  จุดเด่นของการแสดงในชุดนี้ คือ การเดี่ยวระนาดและการแสดงแนวกายกรรมมีการใช้อุปกรณ์เป็นห่วงเหล็กขนาดใหญ่

 

ขณะที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ แชมป์เก่าจากปีที่แล้ว มาในธีม "4 แผ่นดิน ตอน จดตำนานเอกราชชาติเชื้อไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 " ซึ่งมีการจำลองฉากสงคราม รวมทั้งมีการนำการละเล่นพื้นบ้าน และเครื่องดนตรีไทยอย่างเปิงมาง มาประยุกต์ให้เข้ากับการแสดง

 

ส่วนบรรยากาศในช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันของสาย ก. ซึ่งคณะบริหารธุรกิจเริ่มเป็นคณะแรก มาในคอนเซปต์ “สี่ภาค” ซึ่งได้เลือกนำเอาจุดเด่นของแต่ละภาคมาใช้ในการแสดงได้อย่างสวยงาม พร้อมเพิ่มเทคนิคพิเศษด้วยการโหนสลิงเพิ่มความตื่นเต้นให้กับโชว์ได้เป็นอย่างดี

 

ถัดมาคือ คณะนิเทศศาสตร์ ที่แข่งขันเป็นคณะที่สองของสาย ก. มาในธีม “ปลุกความเป็นไทยในตัวคุณ” จุดเด่นของสแตนด์เชียร์มีการใช้โจงกระเบนสีแดงมาเป็นเครื่องแต่งกาย และยังมีเครื่องดนตรีไทยที่นำมาประกอบเข้ากับการแสดงคือ ฆ้องวงและกลองยาว

 

ด้านนายนฤทธิ บุณนิ่ม ประธานเชียร์คณะนิเทศศาสตร์ กล่าวว่า “ปีนี้คณะนิเทศศาสตร์นำเสนอถึงความเป็นไทยคือให้น้องสแตนด์นุ่งโจงกระเบนขึ้นแข่งเชียร์ ซึ่งไม่มีคณะไหนทำเหมือนเรา ปีที่แล้วเราได้แชมป์ปีนี้ก็ฝึกฝนให้เต็มที่มากที่สุด เตรียมตัวกันมา 2-3 เดือน ไม่รู้ว่าวันนี้ผลจะเป็นยังไงแต่ทุกคนในแตนด์เชียร์จะส่งเสียงกันอย่างเต็มที่และหนักแน่นทุกอย่าง เพื่อคงความเป็นศักดิ์ศรีความเป็นนิเทศศาสตร์”

 

ขณะที่หน้าสแตนด์เชียร์คณะนิเทศศาสตร์มีผู้ให้ความสนใจการแสดงเป็นจำนวนมาก เริ่มจากการแสดงเชียร์ที่เชียร์ลีดเดอร์ของคณะนิเทศศาสตร์มาในชุดสีดำ ทอง มีการใช้เรือเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากสำหรับการแสดง ในเพลง เรือเล็กควรออกจากฝั่ง ซึ่งเป็นเพลงบังคับของทางมหาวิทยาลัย        ที่ทุกคณะต้องใช้โชว์ โดยการแสดงของคณะนิเทศศาสตร์มีการนำเพลงลอยกระทงมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการแสดง มีการนำกระทงมาเล่นเป็นอุปกรณ์ประกอบ ทำให้การแสดงของคณะนิเทศศาสตร์ดูตื่นตาและน่าติดตาม

 

 

ปิดท้ายการแข่งขันสาย ก. ที่คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว ปีนี้สแตนเชียร์มาในธีมของโรงละครหุ่นนิทรรศน์สยาม โดยมีตัวละครหลักคือนางชฎา เพื่อแสดงให้คนไทยได้เห็นถึงความสำคัญและเอกลักษณ์ของความเป็นไทย เชียร์ลีดเดอร์ใส่ชุดสีครีมทองโดยมีรูปช้างและเรือสุพรรณหงส์เป็นองค์ประกอบฉาก ขณะที่นาย เทวกุล วารสิทธิ์ ประธานเชียร์ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยวให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับธีมที่เลือกธีมโรงละครหุ่น โดยใช้นางชฎาเป็นตัวละครหลัก สื่อถึงวัฒนธรรมไทย ที่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้คน ซึ่งในปีนี้มีเวลาเตรียมตัวน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ก็จะเต็มให้เต็มที่ที่สุดเพื่อถ้วยรางวัลในปีนี้

 

ส่วนบรรยากาศของขบวนพาเหรด เต็มไปด้วยความสนุกสนานเพราะแต่ละคณะต่างเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ขณะที่ในปีนี้คณะนิเทศศาสตร์มาในคอนเซปต์ “สายน้ำแห่งความเป็นไทย” โดยนางสาวธัญมณี ทรัพย์เจริญไชย คณะกรรมการคณะนิเทศศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับสปอตเดย์มีเวลาเตรียมตัวประมาณ 3 อาทิตย์ ในส่วนของตนจะดูแลขบวนพาเหรดของคณะนิเทศศาสตร์ ที่จะนำเสนอในรูปแบบของตลาดน้ำ นกน้อย ซึ่งมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย จนทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาภายในตลาดน้ำ ทำให้สูญเสียสิ่งแวดล้อมไป แล้วชาวบ้านก็ร่วมใจกันมาช่วยกันอนุรักษ์สายน้ำให้กลับมาดังเดิม

 

สรุปผลการแข่งขันในปีนี้ รางวัลชนะเลิศกีฬารวม ได้แก่ คณะนิเทศศาสตร์ รองชะนะเลิศกีฬารวม อันดับ 1 ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ และคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว รางวัลชนะเลิศขบวนพาเหรด ประเภท ก. ได้แก่คณะนิเทศศาสตร์ ประเภท ข. ได้แก่ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ ประเภท ค. ได้แก่ คณะเศรษฐศาสตร์ รางวัลชนะเลิศเชียร์ลีคเดอร์    ยอดเยี่ยม ประเภท  ก. ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ ประเภท ข. ได้แก่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ประเภท ค. ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ รางวัลชนะเลิศกองเชียร์ ประเภท ก. ได้แก่ นิเทศศาสตร์ ประเภท ข. ได้แก่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ประเภท ค. ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ และสุดท้ายรางวัลชนะเลิศความคิดสร้างสรรค์   THE CREATIVE OF BANGKOK UNIVERSITY ได้แก่ คณะนิเทศศาสตร์